ในช่วง 2-3 ปีมานี้ ถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองของอุตสาหกรรมสิ่งบันเทิงของประเทศเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี ที่มีบอยแบนด์ และเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง BTS และ Blackpink ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ในการมีแฟนคลับทั่วโลก ภาพยนตร์เรื่อง Parasite ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวที Academy Awards ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของโลก และครั้งนี้ก็เป็นทีของรายการทีวี หรือละครชุดเรื่อง Squid Game ที่แม้ว่าเพิ่งจะลงจอทาง Netflix ไปได้แค่ไม่นาน แต่กลับเป็นที่พูดถึงของคนทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว และในบทความวันนี้จะเป็นเรื่องของ 8 เหตุผลว่าทำไมละครชุดเรื่อง Squid Game ถึงได้รับความนิยมอย่างหนักทั่วโลก
1. การยอมรับในผลงานของวงการบันเทิงเกาหลีใต้
จากการยอมรับในทุก ๆ สาขาของสื่อบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี ภาพยนตร์ ที่เป็นผลผลิตของประเทศเกาหลีใต้นั้นทำให้ผู้คนเปิดใจ และได้บริโภคภาพยนตร์ และดนตรีที่เป็นผลงานอื่น ๆ ของศิลปินชาวเกาหลีใต้มากขึ้น ที่นอกเหนือจาก BTS, Blackpink และ Parasite ทำให้ผู้คนทั่วโลกเห็นด้วยกันว่า สื่อบันเทิงของประเทศเกาหลีใต้นั้น มีมาตรฐานที่สูงมาก ๆ ในทุก ๆ ด้าน
2. อุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศเกาหลีได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
ส่วนหนึ่งที่อุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศเกาหลีใต้ได้รับความประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ สิ่งหนึ่งที่จะปราศจากไม่ได้เลยคือ การสนับสนุนจากทางรัฐบาลที่ได้ให้ความสนับสนุนทั้งทางด้านงบประมาณ และการเผยแพร่สื่อบันเทิงไปทั่วโลก ทำให้บริษัทผลิตสื่อใหญ่ ๆ มีแรงบันดาลใจที่ดีในการสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ออกมาเรื่อย ๆ
3. แพลตฟอร์มที่ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ง่าย
เชื่อได้ว่าในประวัติศาสตร์การผลิตสื่อบันเทิงนั้น มีหลายประเทศที่มีผลงานที่โดดเด่น แต่ในสมัยก่อนเราไม่มีแพลตฟอร์ม ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างดีที่สุดก็คือการเผยแพร่ในระดับท้องถิ่น และเมื่อมีการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ผู้คนสามารถเข้าถึงภาพยนตร์ และละครชุดที่ง่ายขึ้นอย่าง Netflix ที่เป็นศูนย์รวมของภาพยนตร์ และละครชุดทั้งทางตะวันตก และตะวันออก ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย
4. ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกแปลไปเป็น 31 ภาษา
แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับคุณภาพของการแปลภาษาที่ไม่ค่อยตรงกับภาษาเกาหลีที่เป็นต้นฉบับในบางภาษา บ้างก็ว่าผู้แปล แปลออกไปเป็นคนละความหมายของบทพูด แต่อย่างไรก็ดี การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกแปลออกไปกว่า 31 ภาษาก็ยิ่งสร้างฐานผู้ชมให้มากยิ่งขึ้น
5. ความแปลกใหม่ของบทภาพยนตร์
ในยุคนี้ เป็นยุคที่หมดยุคของละครน้ำเน่า ตบตีแย่งชิงกันแบบฉบับของละครไทยไปแล้ว ภาพยนตร์ หรือละครเชิงที่ทำให้ผู้ชมคล้อยตามด้วยไหวพริบปฏิภาณ ทำให้ผู้ชมมีความท้าทาย และทำให้ติดละครเรื่องนั้นไปในที่สุด
6. การบอกต่อปากต่อปาก
Word of mouth เป็นทฤษฎีการตลาดที่ใช้ได้จริงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกี่ยุคสมัย แม้ว่าในปัจจุบันอาจจะไม่ได้ใช้ทฤษฎีนี้ผ่านการบอกต่อด้วยตัวเอง แต่แพลตฟอร์มอย่างพวก Twitter, Instagram ที่มีผู้ใช้ทั่วโลก หากมีคนพูดถึง เรื่องใดมาก ๆ ก็มักเป็นจุดสนใจ ทำให้ดึงดูดผู้ที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ตกเป็นหนึ่งในผู้บริโภคได้อย่างไม่รู้ตัว
7. TikTok ที่มีผู้ทำวิดีโอมากมาย
อีกหนึ่งฉากที่ได้รับความน่าสนใจมากที่สุดคือ ฉากของเกม Red light, Green light ที่มีตุ๊กตาเด็กผู้หญิง พร้อมเสียงเพลงที่ฟังแล้วชวนขนลุก และมีผู้ชมทำวิดีโอที่กลายเป็นมีม และถูกส่งต่อเป็นไวรัลในเวลาอันรวดเร็ว และเมื่อผู้ที่ได้เข้าชมวิดีโอ TikTok ได้ทราบว่าเป็นฉากหนึ่งในเรื่อง Squid Game ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มดูละครชุดเรื่องนี้
8. เนื้อหาที่ตื่นเต้นพร้อมฉากที่สวยสมจริง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเนื้อหาของเรื่องนี้มีความตื่นเต้นอยู่มาก และมีความน่าสนใจ ทำให้ในทุก ๆ ตอนนั้นมีความน่าติดตามเป็นอย่างมาก และการใช้ตัวละครที่มีหน้าตาที่ไม่ได้โดดเด่นขนาดที่จะเป็นพระเอก และนางเอกที่หน้าตาดีมาก ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงบทบาทของตัวละครได้มากกว่า เพราะให้อารมณ์สมจริงมากขึ้น อีกทั้งแต่ละฉากยังมีสีสันที่สวยงาม และตัดกับความโหดร้ายของเนื้อเรื่องอย่างสิ้นเชิง
