ด้วยชัยชนะของประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน ทั้งด้านการเลือกตั้งประธานาธิบดี และการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกอีกครั้งที่รัฐจอร์เจีย ทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติของอเมริกาแทบทั้งหมด เป็นสมาชิกของพรรคเดโมแครต ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการเปลียนแปลงครั้งใหญ่ แบบคนละขั้วไปเลยก็ว่าได้ เรามาดูกันว่า สิ่งที่จะเปลี่ยนไป เมื่อโจ ไบเดน ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา
แผนการลงทุนในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
เราจะเห็นได้ว่า สหรัฐอเมริกามีปัญหาเรื่องการบำรุงรักษาสิ่งก่อสร้างที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายการลดภาษีในรัฐบาลก่อนๆ ทำให้เกิดปัญหาด้านการเสื่อมโทรมของสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย ประกอบกับกรมการขนส่งของสหรัฐฯ ได้รายงาน มีสะพานที่ชำรุดและยังมีการใช้งานอยู่กว่าสี่พันแห่ง และประธานาธิบดีโจ ไบเดนก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลงทุนในเรื่องสาธารณูปโภคที่ใช้พลังงานสะอาดในการซ่อมแซมถนนและทางหลวง รวมไปถึงเสา สัญญาณอินเตอร์เน็ตต่างๆ และสิ่งนี้จะสามารถสร้างงาน และอาชีพให้กับชาวอเมริกันได้เป็นอย่างมาก
สนับสนุนนโยบายด้านพลังงาน
โจ ไบเดนยึดมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในวันแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่ง เขาได้นำประเทศเข้าร่วมสนธิสัญญา Paris Accord ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศเรื่องการแก้ไขปัญหาโลกร้อน และเขายังเสนอให้เปลียนอุตสาหกรรมพลังงานแบบดั้งเดิม ให้เป็นพลังงานสะอาด โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ปริมาณการผลิตคาร์บอนในประเทศ น้อยกว่ามาตรฐานสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เขายังประกาศว่าจะเปลี่ยนยานพาหนะทั้งหมดในสังกัดของรัฐบาล ให้เป็นรถไฟฟ้าที่ผลิตในอเมริกา
สนับสนุนการฉีดวัคซีนและนโยบายแก้ไขปัญหาโควิดอย่างเต็มกำลัง
ซึ่งตรงกันข้ามกับโดนัลด์ ทรัมป์อย่างสิ้นเชิง โดยโจ ไบเดนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการรักษา และควบคุมโรคระบาด โดยเขาเสนอแผนที่ให้วัคซีนกับชาวอเมริกัน 100 ล้านคนภายใน 100 วัน ภายในวันแรกที่เขาได้เข้ารับตำแหน่ง เขาเสนอให้เพิ่มจำนวนชุดทดสอบเป็นสองเท่าในการติดตามและแยกการระบาดของไวรัส นอกจากนี้เขายังได้แสดงแผนที่จะจัดตั้งกองกำลังงานด้านสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาเพื่อให้สามารถระดมคนงานด้านสุขภาพหลายแสนคนได้ในเวลาอันรวดเร็ว
นำเอาแผนประกันสุขภาพ Obama Care กลับมาใช้
ฝ่ายบริหารของทรัมป์พยายามที่จะยกเลิกแผนประกันสุขภาพเอื้ออาทร หรือที่เรียกว่า Obama Care โดยโจ ไบเดน ได้มีแผนที่จะนำเอากลับมาใช้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ชาวอเมริกันมากขึ้น และป้องกันไม่ให้ บริษัท ประกันภัยเอาเปรียบลูกค้าด้วยเงื่อนไขที่มีอยู่ก่อนหน้า และทำให้ระบบการดูแลสุขภาพมีความซับซ้อนน้อยลง เขากล่าวว่าเป้าหมายหลักของเขาคือการทำประกันสุขภาพให้กับคนอเมริกันทุกคน ปัจจุบันชาวอเมริกันใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพมากกว่าประเทศตะวันตกอื่นๆ แต่ในทางกลับกัน คุณภาพของการดูแลด้านสุขภาพกลับน้อยกว่าประเทศทางตะวันตกอื่นๆ
นโยบาลผ่อนปรนแก่ผู้ว่างงาน
จากสภาพเศรษฐกิจที่หลายคนเชื่อว่าอยู่ในช่วงวิกฤตภายใต้แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ของวิกฤตสาธารณสุขในปัจจุบัน เขาระบุว่าเขามีแผนที่จะบรรเทาทุกข์ให้กับคนงานที่พลัดถิ่นเนื่องจากการระบาดของโรคด้วยวิธีการดังกล่าวเช่นการขยายระยะเวลาของสวัสดิการประกันการว่างงานให้กับชาวอเมริกันที่ไม่ได้ทำงานและเพิ่มงานใหม่ผ่านการริเริ่มโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ
ฟื้นฟูนโยบายด้านแรงงานต่างด้าว
ประธานาธิบดีไบเดนได้พูดเป็นระยะ ๆ เกี่ยวกับความจำเป็นในการปกป้อง American Dream และทำให้ครอบคลุมถึงผู้อพยพ เขาติดกับกำแพงชายแดนเม็กซิโกของทรัมป์ เพราะเสียเงินภาษีของผู้เสียภาษีและเป็นอนุสาวรีย์ของคนต่างชาติ นอกจากนี้เขายังชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของอเมริกาได้รับประโยชน์อย่างมากจากแรงงานอพยพซึ่งพวกเขามีส่วนร่วมอย่างมากในภาคเกษตรและเทคโนโลยีโดยเพิ่ม GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ประมาณสองล้านล้านดอลลาร์ต่อปี เขาวางแผนที่จะเปิดสหรัฐให้กับผู้ขอลี้ภัยอีกครั้งและจัดหาเส้นทางที่ชัดเจนในการเป็นพลเมืองสำหรับผู้อพยพตามกฎหมายที่ต้องการ
