Site stats 6 สิ่งที่เรียกว่า “ทางเลือก” ของวิวัฒนาการ ( และทำไมทุกข้อจึงผิดหมด ) – Brain Berries

6 สิ่งที่เรียกว่า “ทางเลือก” ของวิวัฒนาการ ( และทำไมทุกข้อจึงผิดหมด )

Advertisements

ชื่อของบทความ“ ทางเลือก” ของวิวัฒนาการแนะนำว่า  ยังมีคำอธิบายอื่น ๆ เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของเรา ที่เป็นไปได้และสนับสนุนเป็นอย่างดี  การโต้แย้งซึ่งต่อต้านแนวคิดวิวัฒนาการนั้นเป็นไปเช่นเดียวกับการนำเสนอ   “มันฝรั่งเผาไฟ” ซึ่งเป็นคำอธิบายของทางเลือกสำหรับลูกไฟขนาดใหญ่ที่โลกหมุนรอบอยู่ พูดอย่างง่ายๆคือ  ชีววิทยาวิวัฒนาการเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์เพราะอธิบายได้ทุกอย่าง ตัวอย่างเช่น  เมื่อค้นคว้าหาการรักษาทางการแพทย์  นักเคมีจะไม่โยนการผสมแบบสุ่มเข้าด้วยกัน และหวังที่จะได้รับผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจว่าเหตุใดร่างกายจึงตอบสนองอย่างหนึ่ง ในบางสถานการณ์ และวิวัฒนาการมีคำอธิบายที่สมบูรณ์แบบ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ผู้คนมากมายทั่วโลกไม่เชื่อในวิวัฒนาการเพราะเราเป็นคนที่ดื้อรั้นที่ต้องการเชื่อในสิ่งที่เราเลือกที่จะเชื่อ โดยไม่คำนึงถึงหลักฐานที่มีอยู่ พวกเขาจะพูดว่า “วิวัฒนาการเป็นเพียงทฤษฎีลางสังหรณ์” ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างสมบูรณ์ว่า คำว่า “ทฤษฎี” มีความหมายในเชิงวิทยาศาสตร์อย่างไร ใครก็ตามที่ต้องการศึกษาด้วยตนเองสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมว่าทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์คืออะไร และนี่ ก็คือ 6 ทฤษฎีทางเลือกสำหรับวิวัฒนาการ

1. รังสรรค์นิยมของพระคัมภีร์ Bible

ทฤษฎีรังสรรค์นิยมในพระคัมภีร์ไบเบิลตั้งอยู่บนพื้นฐานของความคิดที่ว่าทุกสิ่งในแหล่งกำเนิดของทุกอย่างเป็นจริง: พระเจ้าสร้างจักรวาลภายใน 6 วันโดย ในวันที่ 1  บรรยากาศปรากฏในวันที่ 2  พื้นดินและพืชปรากฏในวันที่ 3 ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดวงดาวถูกสร้างขึ้นในวันที่ 4 นก และ สัตว์ทะเลปรากฏในวันที่ 5  และสัตว์บกรวมทั้งมนุษย์เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 6  ทฤษฎีรังสรรค์นิยมนี้เชื่อว่าในโลกมีอายุเพียง 6000 ปี

ปัญหา: พระคัมภีร์ไบเบิลเป็นคัมภีร์ทางศาสนา ไม่ใช่หนังสือวิทยาศาสตร์ มันถูกเขียนขึ้นเมื่อมนุษย์ยังไม่มีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ ดังนั้นทฤษฎีแหล่งกำเนิด จึงถูกใช้เป็นคำตอบเพื่อใช้อธิบายสิ่งต่างๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ในตอนนั้น เพราะเหตุนี้เอง ตัวอย่างเช่น โลก ถูกเชื่อว่ามีรูปร่างแบนและเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล และเมื่อวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าความเชื่อเหล่านั้นไม่เป็นความจริง หลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องง่ายเกินกว่าจะเพิกเฉย แม้ว่ามันจะไม่ได้หยุดยั้งผู้คนจากการเพิกเฉยตาม

2. ทฤษฎี Ancient Astronauts

ทฤษฎีนี้ค่อนข้างขบขัน เมื่อหลายล้านปีก่อนมีเอเลี่ยนและยานอวกาศมายังโลก และหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งมวลมนุษย์ เพราะเหตุใดจึงไม่ชี้นำเราก่อนเราจึงบินออกไป แล้วทิ้งพวกเราให้อยู่กับชะตากรรม ซึ่ง “หลักฐาน” ที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ได้แก่ พีระมิด, ปฏิทินชาวมายัน และภาพวาดของยานอวกาศต่างๆที่เราเห็นในภาพเขียนยุคกลาง

ปัญหา : ต้องขออภัยที่ทำให้ความสนุกหมดลง แต่ทฤษฎีตำนานแห่ง Ancient Astronauts ได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง แม้ว่า นักธรณีวิทยานามว่า Giorgio Tsoukalos จะเคยบอกเรื่องราวนี้กับคุณ

3. ทฤษฎี Intelligent Design

ในขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินไปกับ iPhone แล้วคุณมั่นใจอย่างยิ่งว่ามันถูกสร้างด้วยนักวิจัยนักออกแบบสัก คนในบริษัท Apple  และแน่นอนว่ามันไม่ได้ฟอร์มตัวขึ้นเอง และนี่ก็คล้ายคลึงกับข้อโต้แย้งที่แสดงให้เห็นว่าการออกแบบที่อัจฉริยะนั่นกำลังขายตัวมันเอง ชีวิตมีความซับซ้อนเกินกว่าที่จะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ความคิดต่างๆที่เป็นไป และแน่นอนว่ามันต้องถูกสร้างขึ้นโดยใครสักคน ทฤษฎีนี้ไม่ได้บอกว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโดยตรง และนี่เองก็เป็นเหตุที่รัฐ Louisiana พยายามจะนำทฤษฎีนี้บรรจุในหลักสูตรของโรงเรียน พวกเขาทําได้เพียงไม่นาน เมื่อมันถูกแสดงให้เห็นชัดว่า intelligent designer ที่กล่างถึงนั้นหมายถึงพระเจ้า

ปัญหา : มันเป็นความจริงที่ว่าวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหักล้างทฤษฎี intelligent design ได้ เพราะว่าวิทยาศาสตร์สามารถเน้นในสิ่งที่สามารถทดสอบได้เท่านั้น แต่การที่ไม่สามารถพิสูจน์สิ่งที่ไม่ปรากฏ นั่นไม่ได้หมายถึงต้องมีการเริ่มต้น การมีอยู่จริงของพระเจ้าทำให้การถกเถียงทางปรัชญา ไม่ใช่เชิงวิทยาศาสตร์

4. วิทยาศาสตร์คริสเตียน

สมาชิกของเหล่าวิทยาศาสตร์คริสเตียนเชื่อว่าไม่มีอะไรที่มีอยู่จริง ยกเว้นวิญญาณและสิ่งอื่น เช่น – กระต่ายขนปุย, รถลัมโบกินี่ ที่คุณวางแผนจะซื้อ ถ้าคุณถูกลอตเตอรี่ หรือแม้แต่ แฮมเบอร์เกอร์  ล้วนแต่เป็นภาพลวงตา เนื่องจากความเชื่อนี้ขยายไปยังการบันทึกซากฟอสซิลและอย่างอื่นที่เป็นพื้นฐานของการศึกษาด้านวิวัฒนาการ ดังนั้นการถกเถียงด้านวิวัฒนาการจึงเริ่มต้นขึ้น

ปัญหา : นี่เป็นอีกความเชื่อหนึ่งที่อิงตามข้อโต้แย้งเชิงทฤษฎีที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ซึ่งมันเหมือนกับ การบอกว่าจักรวาลเต็มไปด้วยกล้วยล่องหน ที่เรามองไม่เห็น ก็เพราะมันล่องหนไง

5. ทฤษฎีเรโซแนนซ์ Morphic

แนวคิดนี้ถูกเสนอโดย Rupert Sheldrake อดีตศาสตราจารย์ด้านชีวเคมีแห่งเคมบริดจ์ ผู้เชื่อว่าทุกสิ่งจากเผ่าพันธุ์ทั่วไป ไปจนถึงดวงดาวบนฟ้ามีความทรงจำร่วมที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์และพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไปนิสัยเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนแปลง และทุกสิ่งในธรรมชาติที่อยู่ถูกยึดว่าเป็นความจริง แม้กระทั่งกฎของแรงโน้มถ่วงก็จะถูกแทนที่ด้วยสิ่งใหม่

 ปัญหา : Sheldrake ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแม้กระทั่งอดีตอาจารย์แห่งเคมบริดจ์ ก็สามารถมีความคิดที่แตกต่างไปได้ ซึ่งทฤษฎีนี้ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เลย นอกจากเรื่องของเจไดและกองทัพในสตาร์วอร์ เป็นเพียงเรื่องของอาถรรพ์ของวิทยาศาสตร์เทียมเท่านั้น

6. ทฤษฎีวิวัฒนาการเทวนิยม

คริสตจักรคาทอลิกอาจยังคงล้าหลังในหลายๆด้าน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยอมรับว่าหลักฐานที่สนับสนุนด้านวิวัฒนาการเป็นสิ่งที่ดีเกินกว่าที่พวกเขาจะปฏิเสธ แล้วทางออกของพวกเขาคืออะไร วิวัฒนาการเทวนิยมซึ่งเป็นพื้นฐานของทฤษฎีของดาร์วินบวกรวมกับ Goddism ทฤษฎีวิวัฒนาการเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับผู้นำทางก็ยังคงเป็นพระเจ้า

ปัญหา :  ทฤษฎีนี้ค่อนข้างจะฉลาด การทำความเข้าใจกับความไร้ประโยชน์ของวิทยาศาสตร์ในการโต้แย้งกับศาสนา ซึ่งพวกเขากล่าวว่า “ วิทยาศาสตร์คือวิทยาศาสตร์ แต่เราแนะว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า”