ผ่านปี 2024 กันไปหมาดๆ ก็นับว่าเป็นอีกปีที่คงจะฝังอยู่ในใจหลายคนไปอีกนาน ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ รัสเซีย-ยูเครน อิสราเอล-กลุ่มฮามาส และพี่ใหญ่อย่างจีน-อเมริกา
พอหันกลับมามองบ้านเราก็มีเรื่องวุ่นวายมากมายไม่ต่างกัน ทั้งข่าวการบ้านการเมือง ข่าวอาชญากรรม และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือข่าวการฉ้อโกง หลอกลวงสุดอื้อฉาวของบรรดาเหล่าคนดังทั้งหลายที่พุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ มาย้อน 3 คดีสุดโด่งดังที่ปลุกกระแสถึงคำถามที่ว่า เรายังจะเชื่อถือในตัวคนที่เป็นเหมือนหน้าตาของประเทศ หรือคนที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรมได้อยู่อีกหรือไม่
ดิไอคอนกรุ๊ป
เรียกได้ว่าเป็นคดีสุดสะเทือนวงการธุรกิจ การเมืองและดาราไทยในปี 2024 เลยก็ว่าได้ เมื่อช่วงตุลาคม 2024 มีผู้เสียหายจำนวนมากรวมตัวกันออกมาฟ้องร้อง บอกว่าถูกทางบริษัทหลอกลวงให้ซื้อสินค้าจำนวนมากเพื่อนำไปขายต่อ โดยมีบรรดาเหล่าบอสๆ คนดังอย่างบอสกัน บอสแซม บอสมิน พ่อข่ายแม่ข่าย และหัวหน้าใหญ่อย่าง บอสพอล เป็นตัวชูโรงปลุกปั้นความมั่นใจ
แต่แท้ที่จริงแล้วมีการเปิดเผยว่าจุดประสงค์หลักของธุรกิจนี้คือการเน้นหาคนมาร่วมลงทุน ไม่ใช่การขายสินค้าอย่างที่หลายคนเข้าใจ สุดท้ายเมื่อตัวสินค้าไม่ได้รับความนิยม สินค้าก็ขายไม่ออก ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่คิดจะสร้างตัวจากแบรนด์สินค้านี้ต้องสูญเงินก้อนสุดท้ายไป และมีบางรายถึงกับคิดสั้นจบชีวิตลง
สุดท้ายคดีนี้ทำให้มีผู้เสียหายเกือบ 8,000 ราย และสร้างความเสียหายกว่า 1,600 ล้านบาท
แม่ตั๊ก ป๋าเบียร์
จากที่มีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งออกมาโพสต์คลิปว่าได้ซื้อกุหลายทองคำ จี้ไอ้ไข่ทองคำและลูกประคำทองคำมาจากร้านทองออนไลน์ชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่พอนำไปขายต่อที่ร้านทองปรากฏว่าทางร้านไม่รับซื้อ เนื่องจากทองไม่มียี่ห้อไม่มีใบรับรองและไม่มีเปอร์เซ็นต์ทอง

จากนั้นผู้เสียหายจากร้านทองของแม่ตั๊กกับป๋าเบียร์ก็ได้แห่กันนำทองไปขายคืน ซึ่งมีลูกค้ามากมายที่ผิดหวังเนื่องจากได้ราคาต่ำกว่าตอนที่ตัวเองซื้อมาหลายเท่า และได้มีการเอาผิดกับร้านทองดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ปคบ.จึงนำกำลังเข้าจับกุมทั้งคู่ถึงที่บ้านพักส่วนตัวและนำไปสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ
ทนายตั้ม กับเงิน 71 ล้าน
จากวันที่ 23 ตุลาคม 2024 เมื่อทนายชื่อดังอย่างทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไปออกรายการโหนกระแส เล่าถึงที่มาของเงินและการใช้ของแบรนด์เนม ว่าได้รับทั้งหมดมาโดยเสน่ห์หาจากลูกความ เจ๊อ้อย นางสาวจตุพร อุบลเลิศ เศรษฐินีที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศฝรั่งเศส
โดยจุดแตกหักระหว่างทั้งสองคือเมื่อเจ๊อ้อยฝากเงิน 71 ล้านให้กับทนายตั้มเพื่อนำไปลงทุนธุรกิจแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ แต่ทนายตั้มกลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ แถมไม่ยอมคืนเงินให้ด้วย สุดท้ายเจ๊อ้อยจึงต้องเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีเองในประเทศไทย และในวันที่ 7 พฤศจิกายน ตำรวจได้เข้าจับกุมตัวทนายตั้มและภรรยาที่จังหวัดฉะเฉิงเทรา ตามหมายจับศาลอาญารัชดาในคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ขณะที่ฝ่ายภรรยาถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
นี้ก็เป็น 3 คดีสุดทะเทือนสังคมของไทยในปีที่ผ่านมา ทำให้เราทุกคนต้องหันมาตั้งคำถามกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมในปัจจุบัน คนที่ฉากหน้าดูเหมือนจะเป็นคนดี บอกว่าตัวเองทำเพื่อคนอื่น อยากทำให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น แต่แท้ที่จริงแล้วทั้งหมดนั่นก็เป็นเพียงลมปาก เพราะสิ่งที่พวกเขาทำทั้งหมดก็เพื่อพวกพ้องและตัวเอง