เจ้าชายหมูกรอบ ‘อาร์ต พศุตม์’ เปิดใจกับความลับที่ไม่เคยบอกใคร โดนเพื่อนดาราแทงข้างหลัง ยอมทำผิดกฎช่อง เพราะผู้ใหญ่ไม่ป้อนงานให้ จนต้องขอออก
เมื่อหนุ่มสุดหล่อกล้ามแน่นที่เป็นเหมือน Sex Symbol ที่ขนาดผู้ชายแท้ ๆ ยังบอกว่าเป็นตัวพ่อ อย่าง ‘อาร์ต-พศุตม์’ ผันตัวออกมาทำธุรกิจส่วนตัวอย่างการขายหมูกรอบ จนกลายเป็นกระแสโด่งดังในโซเชียล เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WOODY INTERVIEW กับพิธีกรฝีปากกล้าอย่างวู้ดดี้ เจ้าตัวออกมาระบายเรื่องราวที่อัดอั้นอยู่ในใจมานานกว่า 17 ปีที่ถูกเพื่อนดาราคนสนิทแทงข้างหลัง และสาเหตุที่ไม่ขอต่อสัญญากับช่องเก่า
วันนี้เราจะมาดูประเด็นสำคัญ ๆ ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้กัน
มาถึงวู้ดดี้เริ่มบอกว่า อาร์ต-พศุตม์ เป็นดาราที่อยู่ในวงการบันเทิงมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว แต่ในตาของเขากลับเหมือนมีความทุกข์อะไรบางอย่างซ่อนอยู่ จากนั้น อาร์ต-พศุตม์ ได้กล่าวตอบการสัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาเรื่องการโดนขัดแข้งขัดขาจากคนใกล้ตัวที่เจ้าตัวเองก็เคยคิดว่าเป็นเพื่อน และเรื่องสังกัดค่ายที่เคยทำงานด้วย เนื้อหาใจความมีดังนี้
ในวงการหลายคนรู้แล้วว่าผมเคยทำงานที่ ๆ หนึ่ง แต่ผมก็ไม่ได้เซ็นสัญญาต่อ ก่อนที่จะยกเลิกสัญญา จริง ๆ มันเป็นการโดนขัดแข้งขัดขามากกว่าจากเพื่อนเราเอง
มีเพื่อนคนหนึ่งรุ่น ๆ ผมนี่แหละ วันหนึ่งผมเป็นคนแรกที่ได้ละครในกลุ่มในรุ่นเดียวกัน แล้วตอนนั้นผมถ่ายละครอยู่ 2 เรื่องกับซิตคอม 1 เรื่อง แล้วก็มีบุคคลนี้มาถามผมว่าตอนนี้ผมทำงานอะไรอยู่บ้าง ผมก็ตอบไปแค่นั้น ปรากฏว่าคน ๆ นี้ดันไปบอกที่ดูแลศิลปินของแผนกนี้ว่าผมอวดงาน ทางนั้นเขาก็โทรมาด่าผมว่าไปบอกทำไมว่ามีงานอะไรบ้าง ผมก็แบบว่าผมไม่มีไม่ได้พูดให้ใครฟังเลย แล้วผมก็เลยนึกว่า อ๋อ! ผมพูดกับคนหนึ่งไป
ปรากฏข่าวทางนี้ถึงผู้ใหญ่จริง ๆ ผมเลยโอเคแล้ว เขาไม่ได้เป็นเพื่อนเราแล้ว พยายามแทงเราแล้วมันก็มีเรื่องราวแย่ ๆ มาสักพัก คำตอบสุดท้ายของเขาก็คือ เขาคิดว่าถ้าไม่มีผม เขาจะได้เป็นพระเอกแทนผม ซึ่งจริง ๆ คนละคาแรคเตอร์เลย
แต่สิ่งที่เสียใจก็คือ ในที่ทำงานเก่า เขาจะมีแผนก ๆ หนึ่งที่ดูแลศิลปิน แล้วพ่อผมเขาอยู่วงการใช่ไหม เขาก็ทำหนัง ผมก็ถือบทเข้าไป บอกว่าพี่ครับผมอยากเล่นบทนี้ครับ ผู้ใหญ่คนนั้นก็บอกไม่ให้เล่น
หลังจากนั้นประมาณครึ่งปี พี่คนนี้เขาก็โทรมาหาผม อาร์ตแกเป็นยังไงบ้าง หนังที่แกเล่นเป็นยังไงบ้าง ผมก็หนังอะไร ก็พี่ไม่ให้ผมเล่นไง ผมก็เลยบอกว่าพี่อย่าบอกนะว่าพี่ให้เพื่อนผมเล่น คำตอบคือใช่ ผมเลยน้ำตาร่วงเลย ทำไมถึงทำแบบนี้กับเรา ทั้ง ๆ ที่เราเคารพ และไว้ใจทำให้ทุกอย่าง แต่ว่าพี่คนนี้ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ทำงานแล้ว ออกจากที่ทำงานเก่าไปบวชแล้ว
ส่วนเหตุผลที่ผมลาออกเลยคือ ตอนนั้นผมเล่นบางระจัน แล้วผมก็ได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำมา ก็มีผู้จัด 3 เรื่องโทรหาผม ผมก็บอกว่างครับ ตอนนี้ยังไม่มีละครเล่น ปรากฏว่าผู้ใหญ่ไม่ให้ผมเล่นเลยทั้ง 3 เรื่อง บอกผมไม่ว่าง ทั้ง ๆ ที่ผมรู้ตัวว่าว่างและผู้จัดโทรหาผมแล้ว
ผมอยากโชว์ศักยภาพให้ทุกคนเห็น คิดว่าจะได้เจริญในหน้าที่การงานขึ้น ปรากฏว่าไม่ให้ผมเล่น จับผมไปลงละครเย็นหนึ่งเรื่อง ทำไมต้องจับผมลงแต่ละครเย็น ทั้ง ๆ ที่บทดี ๆ ผมก็มีตั้งเยอะแยะ
ผมก็แอบหนีไปเล่นอีกที่หนึ่งเป็นซีรีส์สั้น ๆ ช่องอื่น พอทางที่ทำงานเก่ารู้ว่าผมไปเล่น เขาก็ฟีดแบคไปว่าห้ามออน เพราะมีสัญญาอยู่ ผมก็บอกให้ออนไปเลย เดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง
ผมก็เป็นคนโทรไปหาผู้ใหญ่ว่าผมอยากคุยด้วยก็ได้พบกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เดินไปถึงผมไหว้ก่อนเลยขอโทษครับที่ทำผิดสัญญา เขาก็ถามทำไมทำแบบนี้ เพราะผมอยากมีวันนี้ ผมอยากมีวันที่พี่สนใจผมแบบนี้ พี่เคยนั่งคุยกับผมแบบนี้ไหม แต่ตอนพูดร้องไห้แล้วนะ คนอย่างผมร้องไห้มันคืออัดอั้น ผมเก็บข้อมูลมา 4 ปี เงินเดือนผมไม่ได้ ไม่ได้เล่นละคร ผมอยากมีหน้าที่การงานที่ดีขึ้นครับ อยากดังเหมือนคนอื่นเขาบ้าง
พี่ไปถามผู้กำกับหรือผู้จัดทุกคนได้เลย 7 ปีที่ผมทำในวงการ ผมเคยทำงานสาย 3 วันผมเป็นเด็กดีไหม เพียงเพราะผมไม่เข้ามาหาพี่หรือได้มาคุยกับพวกพี่ ผมกลายเป็นเด็กไม่ดีใช่ไหมครับ เขาเงียบ
สรุปเขาก็ถามว่าผมจะเซ็นต่อไหม ตอนนั้นมีละครเรื่องหนึ่งติดต่อผมมา 30 ตอน งั้นผมขอแบบนี้แล้วกันครับ ตลอดเวลาที่ผมอยู่มา 7-8 ปีที่นี่ ผมไม่เคยได้การันตีเลยว่าผมจะได้เล่นละครกี่เรื่อง เงินเดือนผมไม่เคยได้ งั้นผมขอการันตีปีหนึ่ง 3 เรื่อง เงินเดือนผมไม่เอาก็ได้ แต่ผมของานแค่นี้ ไม่ได้ งั้นผมขอเล่นละครนี้ 30 ตอนได้ไหม ไม่ได้ งั้นผมไม่เซ็นนะครับ นี่คือที่มา แล้วเพื่อนคนที่ผมพูดถึงอยู่นี่ก็ไปป่าวประกาศให้คนอื่นฟังว่าผมเป็นคนฉีกสัญญา ผิดกฎ แต่เขาไม่รู้ว่าผมไปคุยกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว
และจากประสบการณ์ที่ผ่าน ๆ มา ทุกอย่างในชีวิตมันดีหมดเลย แค่คนบางคนเข้ามาในชีวิตผมไม่ดีเท่านั้นเอง และผมก็เลือกเก็บแต่สิ่งที่ดี ๆ ไว้