Site stats พระเจ้าเสือ แท้จริงแล้วเป็นลูกใครกันแน่? – Brain Berries

พระเจ้าเสือ แท้จริงแล้วเป็นลูกใครกันแน่?

Advertisements

“ท้าวทองกีบม้า” ชีวิตรันทดที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายหลังเสียสามี และตีแผ่สมมติฐานเรื่องราว “พระเจ้าเสือ” แท้ที่จริงแล้วเป็นลูกใครกันแน่

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับเหล่าออเจ้าที่เป็นแฟนละครพีเรียดสุดโรแมนติกแฟนตาซี “บุพเพสันนิวาส” ที่มาต่อกันที่ภาคต่ออย่าง “พรหมลิขิต” โดยเริ่มฉายตอนแรกวันที่ 18 ตุลาคม ที่ช่อง 3HD ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 20:30 น. 

ถือว่ากลับมาเป็นไวรัลกันอีกครั้งกับละครภาคต่อ “พรหมลิขิต” และเพียงแค่ตอนแรกก็ทำเอาเหล่าชาวเน็ตอดที่จะสงสารชีวิตอันแสนรันทนของ ท้าวทองกีบม้า รับบทโดย ซูซี่-สุษิรา แน่นหนา ไม่ได้ เมื่อชีวิตต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อสูญเสียสามี เจ้าพระยาวิไชเยนทร์ หรือ คอนสแตรติน ฟอลคอน รับบทโดย หลุยส์ สก๊อต 

ด้วยความที่ท้าวทองกีบม้าถือเป็นผู้ที่มีสิริโฉมงดงามคนหนึ่ง จึงตกเป็นที่หมายปองของคนในราชสำนักอย่าง หลวงสรศักดิ์ หรือ พระเจ้าเสือ รับบทโดย ก๊อต จิรายุ แต่นางกลับปฏิเสธที่จะรับรัก จึงทำให้ความรักที่พระเจ้าเสือมีต่อนางกลับกลายเป็นความเกลียดชัง พระองค์พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ชีวิตนางต้องเจอแต่ความทุกข์ทรมาน แต่เมื่อรัชสมัยของพระองค์สิ้นสุดลงก็ถือได้ว่าชีวิตของท้าวทองกีบม้าได้เจอกับแสงสว่างอีกครั้ง และการปฏิบัติหน้าที่อันสุจริตของนางก็ทำให้เป็นที่โปรดปรานขององค์กษัตริย์ ทำให้นางกลับมามีชีวิตที่สดใสพร้อมทั้งมีข้าราชบริวารมากมาย

วันนี้เราจึงอยากจะมานำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของ พระเจ้าเสือ ผู้ที่ถูกเล่าขานว่าเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยดังเช่นชื่อ ดุร้าย ห้าวหาญ และมีความเชี่ยวชาญในศิลปะมวยไทยมากคนหนึ่ง 

แท้ที่จริงแล้วพระเจ้าเสือเป็นพระโอรสของใครกันแน่?

เรื่องนี้ถูกตั้งสมมติฐานขึ้นมาใน 3 ข้อ โดยการวิเคราะห์ของ รศ.(พิเศษ) นพ.เอกชัย โควิสารัช

1. สมเด็จพระนารายณ์ กับ นางลาว พระราชธิดาเจ้าเมืองเชียงใหม่

2. สมเด็จพระนารายณ์ กับ เจ้าจอมบุญ

3. สมเด็จพระเพทราชา กับ พระราชมารดาที่ไม่มีการปรากฏนาม

เริ่มจากสมมติฐานยอดนิยม ข้อที่ 1. แม้พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเลบันทึกเรื่องนี้ไว้ว่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราชไม่ทรงรับนางลาวที่ทรงครรภ์กับพระองค์ เพราะทรงละอายต่อพระสนมทั้งปวง และพระราชทานให้พระเพทราชาไปเลี้ยงดู และครั้งที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระชินราช พระชินสีห์ที่เมืองพิษณุโลก นางลาวที่มีครรภ์ก็ตามเสด็จและคลอดบุตรชายชื่อ เดื่อ ซึ่งก็คือสมเด็จพระเจ้าเสือในเวลาต่อมา

นพ.เอกชัย วิเคราะห์ว่า “สมเด็จพระนารายณ์พระราชทานนางลาวแก่พระเพทราชา เพราะทรงละอายต่อพระสนมทั้งปวง” เป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล เพราะพระมหากษัตริย์เป็นเจ้าชีวิต เป็นกฎหมาย ไม่ว่าพระสนมจะเป็นชาวต่างชาติใด ๆ จึงไม่ใช่เรื่องน่าละอาย นอกจากนี้นางลาวที่ครรภ์แก่ไม่น่าจะได้ติดตามการเสด็จดังกล่าว เพราะถ้ามีการคลอดระหว่างทางจะทำให้ขบวนเสด็จวุ่นวาย

นอกจากนี้หลักฐานของนายแพทย์ประจำคณะราชฑูตเยอรมันที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี ในปี พ.ศ. 2233 ต้นรัชกาลสมเด็จพระเพทราชาเขียนว่า สมเด็จพระเจ้าเสือพระมหาอุปราชมีพระชนมายุ 20 พรรษา แสดงว่าพระองค์ประสูติ พ.ศ. 2213 แต่เมืองเชียงใหม่ตกเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2205 หากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงมีสัมพันธ์กับพระธิดาเจ้าเมืองเชียงใหม่จริง สมเด็จพระเจ้าเสือก็ควรทรงพระราชสมภพในช่วง พ.ศ. 2205-06 ไม่น่าจะเลยไปถึง พ.ศ. 2213

ส่วนที่พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหมอบรัดเล บันทึกว่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเคยรับสั่งกับสมเด็จพระเจ้าเสือครั้งเป็นนายเดื่อมหาดเล็ก เมื่อประทับหน้าพระฉาย (กระจก) คู่กับพระองค์ว่าเห็นเป็นอย่างไร นายเดื่อกราบทูลว่ารูปพรรณทั้งสองมีความคล้ายคลึงกัน สมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็ทรงเมตตาพระราชทานเงินทอง และข้าวของจำนวนมาก 

ประเด็นนี้เป็นรูปลักษณ์ภายนอก และคงไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นจริงหรือไม่ เพราะพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่เราเห็นกันนั้น ก็เป็นการเขียนในหลายวาระ ส่วนพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าเสือกลับไม่เคยปรากฏเลย

สมมติฐาน ข้อที่ 2. คำให้การขุนหลวงหาวัด บันทึกว่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงไม่ยอมรับเจ้าจอมสมบุญ ซึ่งเป็นคนโปรดของพระองค์ที่มีครรภ์อยู่ โดยทรงยกให้พระเพทราชา (เมื่อครั้งทรงเป็นเจ้าพระยาสุรสีห์) แต่ไม่ทำลายครรภ์ เพราะเหตุที่พระศรีศิลป์กุมารซึ่งเป็นพระโอรสของพระเชษฐา (ที่ไม่ได้เกิดจากพระมเหสี) เคยเป็นขบถต่อพระองค์ และสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงขอให้ได้พระราชโอรสอันเกิดในครรภ์ของพระมเหสี ได้ตรัสกับพระสนมทั้งปวงว่าใครมีครรภ์จะทำลาย

นพ.เอกชัยอธิบายว่า ปกติการสืบราชสมบัติในสมัยอยุธยาจะสืบต่อการทางพระราชอนุชาก่อน หากไม่มีจึงสืบทางพระราชโอรส และก็ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นพระราชโอรสที่ประสูติแต่พระมเหสีเท่านั้นจึงมีสิทธิในราชบัลลังก์ เช่น รัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททองก็ทรงมอบราชสมบัติให้เจ้าฟ้าชัยซึ่งมิได้ประสูติแต่พระมเหสี การทำลายครรภ์อันเกิดแต่พระสนมจึงไม่มีเหตุผลที่สมควร นอกจากนี้ยังอาจเป็นความคลาดเคลื่อนจากคำให้การขุนหลวงหาวัด เพราะเป็นการแปลจากภาษารามัญ

สมมติฐาน ข้อที่ 3. เป็นสมมติฐานที่อ้างอิงจากเอกสารชั้นต้นของชาวต่างชาติที่เดินทางมากรุงศรีอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เช่น จดหมายมองเซนเยอร์เดอซีเซ ถึงผู้อำนวยการคณะกรรมการต่างประเทศ ลงวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1703 หรือ จดหมายเหตุ ลาลูแบร์ โดยบันทึกไปในทางเดียวกันว่า “สมเด็จพระเจ้าเสือทรงเป็นพระราชโอรสจริงของสมเด็จพระเพทราชา”

นอกจากนี้หากพิจารณาพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหมอบรัดเล ตอนหนึ่งบันทึกเหตุการณ์เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงประชวรหนัก พระเพทราชาและหลวงสรศักดิ์เข้าไปเฝ้ากราบบังคมทูลว่า ถ้าพระองค์สวรรคตจะถวายราชสมบัติให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ กรมพระราชวังหลัง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชกริ้วมาก ถึงกับตรัสว่าขอให้พระองค์มีพระชนม์ชีพอีก 7 วัน จะขอดูหน้ากบฏสองคนพ่อลูก นพ.เอกชัยท้วงว่า หากสมเด็จพระเจ้าเสือเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระนารายณ์ พระองค์น่าจะทรงตัดพ้อ หรือตำหนิว่าเป็นทรพีที่ฆ่าทรพาผู้เป็นพ่อเช่นในรามเกียรติ์มากกว่า

ส่วนที่มีข้อคัดค้านว่า พระเพทราชามิใช่พระราชบิดาของสมเด็จพระเจ้าเสือ เพราะเมื่อสมเด็จพระเพทราชาทรงประชวรใกล้สวรรคต มิได้ทรงยกพระราชสมบัติให้สมเด็จพระเจ้าเสือที่เป็นพระราชโอรสพระองค์โต แต่กลับทรงยกให้เจ้าฟ้าพระยอดขวัญ ซึ่งเป็นพระราชโอรสซึ่งประสูติแต่กรมหลวงโยธาทิพ

ประเด็นนี้ นพ.เอกชัยอธิบายว่า สมัยกรุงศรีอยุธยามีอยู่หลายครั้งที่พระราชสมบัติมิได้แก่พระราชโอรสพระองค์โต เช่น สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ ทรงยกราชสมบัติให้เจ้าฟ้าอภัย แทนที่จะเป็นเจ้าฟ้านเรนทร พระราชโอรสองค์โต, สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ ก็ทรงตั้งกรมขุนพรพินิจ พระราชโอรสองค์เล็กสุดเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลเพื่อเป็นองค์รัชทายาท นอกจากนี้พระเจ้ายอดขวัญยังเป็นพระราชโอรสที่ประสูติภายใต้พระเศวตฉัตร (พระราชบิดาทรงเป็นพระมหากษัตริย์แล้ว) หรือเป็นความเสน่หาที่สมเด็จพระเพทราชามีต่อเจ้าฟ้าพระยอดขวัญ

กรณีคลาสสิกที่เคยเชื่อกันว่า สมเด็จพระเจ้าเสือเป็น “พระราชโอรสลับ” ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มานานก็เริ่มถูกท้าทายว่า พระองค์เป็นพระราชโอรสจริงของสมเด็จพระเพทราชา และอาจมีประเด็นอื่นต่อไปในอนาคต เมื่อมีการค้นคว้าใหม่ทางวิชาการเกิดขึ้น