หากให้ทายชื่อดาราสาวที่เป็นซุปตาร์ตัวแม่เบอร์ต้น ๆ ของเมืองไทย ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ มีหน้าตาหวาน ดวงตาคมโตคล้ายกับตุ๊กตาบลายธ์ ตอนนี้เป็นคุณแม่ลูก 3 แล้ว แต่ก็ยังไม่ทิ้งวงการบันเทิงไปไหน เชื่อว่าหลายคนก็ต้องนึกถึงใครไปไม่ได้นอกจาก ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ด้วยความสวยสดใส น่ารัก และใจดี ทำให้เธออยู่ในวงการบันเทิงมาได้อย่างราบรื่นตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี และแทบจะไม่มีข่าวเสียหายออกมาเลย ทำให้วันนี้เราอยากจะมานำเสนอ 10 เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับสาวชมพู่-อารยา รับรองว่าบางเรื่องอาจทำให้เราร้องอุทานออกมาได้เลยว่า “อุ๊ต๊ะ เธอทำแบบนี้ด้วยเหรอ!”
1. เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิง
ชมพู่ อารยา ในวัย 17 ปีได้เริ่มต้นจากการประกวดมิสมอเตอร์โชว์เมื่อปี พ.ศ. 2541 จากนั้นเธอได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงกับทางช่อง 7 และประเดิมละครเรื่องแรก เพลงพราย ที่ประกบคู่กับพระเอกอย่าง บี๋-สวิช เพชรวิเศษศิริ ต่อมาเธอก็มีชื่อเสียงมากขึ้นจากละครเรื่อง หมอลำซัมเมอร์ แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญได้เริ่มขึ้นเมื่อเธอตัดสินใจย้ายช่องมาเป็นนักแสดงในสังกัดของช่อง 3 และผลงานละครที่สร้างชื่อให้เธอดังเป็นพลุแตกก็คือเรื่อง ดอกส้มสีทอง ที่เธอมารับบทเป็น เรยา เรียกได้ว่าเป็นซุปตาร์ตัวแม่ของจริง จะบทนางเอกหรือนางร้ายก็ทำคนดูอินสุด ๆ
2. ผลงานทั้งหมดในวงการบันเทิง แฟนพันธุ์แท้รู้กันหรือเปล่า
ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา ชมพู่-อารายมีผลงานละครถึง 42 เรื่อง ภาพยนตร์ 5 เรื่อง งานพรีเซ็นเตอร์โฆษณา 53 ชิ้น งานร้องเพลง 24 เพลง เป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ 16 เพลง ละครเวที 2 เรื่อง พิธีกร 17 รายการ แถมเธอยังเคยสวมบทเป็นนักพากษ์การ์ตูนด้วยในเรื่อง Over the Hedge
3. สาวไทยคนแรกบนพรมแดงณเมืองคานส์
ด้วยความเป็นเจ้าแม่สายแฟชั่น ชมพู่-อารยาจึงได้รับเลือกให้เป็นสาวไทยคนแรกที่ได้เดินเฉิดเฉยบนพรมแดงที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ประเทสฝรั่งเศส ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของ ลอรีอัล ปารีส ต่อเนื่องมาถึง 7 ปี จนในปี 2557 เธอก็ได้รับรางวัล Best Dressed มาครอบครองและได้รับฉายาว่า Queen of Cannes
4. เรียนเก่งจนคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2
เรื่องการแสดงก็เก่ง เรื่องเรียนของสาวชมพู่ก็ไม่แพ้กัน เธอจบการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนวิมลทิพย์ ระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนกาญจน์มณี ระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งเธอก็สามารถคว้าเกียรตินิยมอันดัน 2 มาได้ด้วย
5. ฟิตแอนด์เฟิร์มแถมเซ็กซี่สุดๆ
เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะก่อนแต่งงานหรือหลังแต่งงาน สาวชมพู่ก็ยังมีหุ่นเพรียวเรียวเป๊ะอยู่ตลอด แถมเธอยังได้รับรางวัลการันตีจาก FHM Sexiest Actress in Thailand ตั้งแต่ปี 2007-2011 และเคล็บ (ไม่) ลับในการดูแลสุขภาพของเธอคือ การเลือกรับประทานอาหาร กินคลีนบ้าง และเน้นออกกำลังกายแบบโยคะสลับเวท รวมทั้งเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ สลับกันเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกายในทุกส่วน
6. กามเทพแพลงศรจนให้เจอสามีอย่างน็อต–วิศรุต
ถ้าถามว่าสาวชมพู่มาพบรักกับสามีปัจจุบัน น็อต-วิศรุต ได้อย่างไร ก็คงต้องหันไปถามผู้จัดการมือทองของเจ้าตัว หวานเจี๊ยบ โดยหวานเจี๊ยบได้ออกมาบอกว่าตัวเองได้ไปพบกับคุณน็อตในงานอีเวนต์งานหนึ่ง ก็เลยโทรบอกสาวชมพู่ทันที เนื่องจากสเปคของเธอเป็นผู้ชายตี๋อยู่แล้ว แต่กลับไม่เป็นอย่างคาด สาวชมพู่ไม่ชอบวิธีการแพลงศรแบบนี้ ทั้งคู่มีปากเสียงกันจนทำเอาผู้จัดการหวานเจี๊ยบถึงกับร้องไห้ แต่พอสาวชมพู่กับคุณน็อตได้พูดคุยกัน เจ้าตัวก็ออกปากเองเลยว่าคุณน็อตเป็นคนที่โอเคดี และบอกได้เลยว่างานนี้ต้องมีคนตามง้อขอโทษขอโพยแน่นอน
7. สินสอด 108 ล้านกับงานแต่งสุดอลังการ
เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮากันสุด ๆ ในปี 2558 สำหรับพิธีหมั้น และงานแต่งของสาวชมพู่กับหวานใจ น็อต-วิศรุต งานแต่งของทั้งคู่จัดขึ้นในธีม Melody of Love วันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ฝ่ายเจ้าบ่าวยกขบวนขันหมาก และขบวนรถ BENZ s300 รวม 15 คัน พร้อมกับสินสอดรวม 108 ล้าน มีแหวนเพชร 8 กะรัต สร้อยคอเพชร ต่างหู 14 กะรัต เงินสด และที่ดิน 3 แปลง ราคา 60 ล้านบาทเพื่อมาสู่ขอ
8. เจ้าแม่สายแฟชั่นกับธุรกิจสุดปัง
นอกจากงานบันเทิงแล้ว สาวชมพู่ยังมีธุรกิจของตัวเองด้วยอีกมากมายหลายแขนง ดังนี้
– ร้านทำผม “Celeb’Room” ย่านสุขุมวิท 24
– ร้านตุ๊กตาบลายธ์ “The Doll House Shop at Qconceptstore” สยามพารากอน
– ธุรกิจเต้าหู้พร้อมทาน ตราลูกสาว ที่ลงทุนไปประมาณ 100 ล้านบาท
– แบรนด์เสื้อผ้าเด็กแนวสตรีตในชื่อ “SAIFAH BHAYU” โดยมีลูกชายฝาแฝดมาเป็นพรีเซ็นเตอร์
– ธุรกิจ E-Commerce ในชื่อเว็บ www.hausofabbi.com ที่เป็นการร่วมมือกันกับเหล่าดีไซเนอร์ตัวท็อป และนำสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังมาลงขาย
– ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ และเป็นผู้บริหารนิตยสาร Elle Thailand
9. ทั้งสวยรวยและใจบุญ
ทำเอาเพื่อน ๆ ดาราเช่น ก้อง-ปิยะ ออกมาเปิดเผยเลยว่า สาวชมพู่เป็นคนนิสัยดีมาก ๆ เวลาที่รู้ว่าเพื่อนที่รู้จักไม่สบาย มีปัญหา เจ้าตัวจะโทรศัพท์มาถามเลยว่าพี่ก้องรู้จักคนนี้ไหม อยากจะช่วย แถมยังช่วยเกินสิ่งที่ขอด้วย ส่วนฝ่ายของพิธีกรฝีปากกล้าอย่าง มดดำ-คชาภา ก็ออกมาพูดเสริมด้วยว่า สาวชมพู่ชอบทำบุญกับโรงพยาบาล และคนป่วย ทั้งสวย รวย เก่ง และใจบุญแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่สาวชมพู่ยังอยู่ในวงการมาได้จนถึงทุกวันนี้
10. เอาไฟมาลน
ขอตบท้ายด้วยเรื่องสุดขนลุกที่หลายคนคงคิดไม่ถึงว่าสาวชมพู่จะกล้าทำแบบนี้ด้วย โดยในวันที่ 1 มิถุยายน 2565 หนึ่งวันก่อนที่จะมาร่วมงาน “Louis Vuitton Fall Winter 2022 Men’s Spin-off show” เจ้าตัวได้โพสต์คลิปสั้น ๆ ที่เผยเทคนิคการทำให้ขนตา และขนคิ้วงอนเด้งทั้งวันทั้งคืน นั่นก็คือให้ช่างแต่งหน้านำไม้ก้านเล็ก ๆ มาลนไฟ และดัดไปที่ขนตาและขนคิ้ว แถมยังเน้นย้ำด้วยว่า “ห้ามขยับตัวเลยนะคะซิส”