Site stats ขวัญใจ LGBTQ+ “ไนกี้-นิธิดล” แซ่บจนนักการเมืองขอเลี้ยง? – Brain Berries

ขวัญใจ LGBTQ+ “ไนกี้-นิธิดล” แซ่บจนนักการเมืองขอเลี้ยง?

Advertisements

ภูมิใจกับหยาดเหงื่อแรงกายที่เราทำเอง ภูมิใจกับเงินที่หามา มันจะเอาไปใช้อะไรมันก็เงินเราไม่ใช่เงินเขา แต่กลายเป็นว่าถ้าเราเอาเงินคนอื่นมาใช้ เป็นบุญคุณเลยนะ เราต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ใช่ เราเป็นคนสไตล์แบบไม่ชอบคำสั่ง ไม่ชอบความกดดัน เงินเรามีความสุขในแบบของเรา และเราไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ คนที่ให้ไม่มีใครจะไม่อยากได้อะไรคืน มันไม่มีของฟรีบนโลก

มาอีกคนกับหนุ่มฮอตขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ รวมทั้งกลุ่ม LGBTQ+ “ไนกี้-นิธิดล” ออกมาเผยว่าเคยมีนักการเมืองเกย์ชื่อดังเสนอขอเลี้ยงดูค่าตัวหลักล้าน 

เจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ พูดถึงเรื่องราวความรักในโลกที่เปลี่ยนไป จึงไม่ได้ปิดกั้น ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เรื่องงานการแสดงที่อยากจะพิสูจน์ฝีมือ และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น โดยยอมรับว่าเคยมีทั้งคนดังนักการเมืองในกลุ่ม LGBTQ+ ชวนไปทานข้าว ขอเลี้ยงดูแบบสุขสบาย พร้อมทั้งให้เงินแบบที่ต้องร้องว้าววว และเจ้าตัวจะตอบว่าอย่างไรบ้าง? ไปดูกันเลย

ตอนนี้โสดไหม?

“ก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้เปิดและก็ไม่ได้ปิดขนาดนั้น แต่ว่าเป็นเพราะหลายคนไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นกับผมมากกว่า แล้วตัวผมเองก็ให้น้ำหนักไปทางการแสดงมากกว่า กับผลงานในวงการบันเทิง เรื่องอันนั้น บางทีกลายเป็นว่าเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก มันก็ไม่ดี ก็เลยอยากให้คนโฟกัสไนกี้ในเรื่องของการแสดงมากกว่า ตัวตนมันก็อีกแบบนึงแหละ แต่ถามว่าวงการบันเทิงมันน่าจะให้คนเห็นเป็นรูปธรรมมากกว่า ว่าเราพัฒนาตัวเองจริง ๆ นะ เขาแข็งแรงในวิชาชีพเขามากขึ้นนะ เพราะอย่างเรื่องหัวใจ เจอใครที่ใช่ที่คลิก วันนึงเราปิดไม่ได้อยู่แล้ว (ส่วนวันนี้?) ก็คือยังอยู่แบบนี้ดีกว่า ได้เจออะไรหลาย ๆ อย่าง ก็รู้สึกว่าอยู่กับตัวเอง อยู่กับแบบนี้ดีกว่า อยู่ไปก่อน ไม่ได้รีบร้อน เพราะว่ายังมีหลาน เห็นพี่สาวเลี้ยงลูกแล้วเราเครียดเลย เครียดแทนเพราะว่าพี่สาวเขาก็ส่งอัปเดตให้ดูตลอด ก็เครียดนะกับการเลี้ยงเด็กคนนึง มันไม่ง่ายเลย ก็คือขอบคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามาเลย มันไม่ง่ายจริง ๆ อาจจะยังไม่ถึงเวย์มั้ง อาจจะยังไม่ใช่เวย์นี้”

เราเนื้อหอมในหมู่ LGBTQ+ จริง ๆ เราเปิดกว้างในเรื่องตรงนี้ไหม?

“ก็ต้องบอกว่าทุกวันนี้ไม่ได้ปิดแล้ว เปิดกว้างขึ้น ก็เปิดหัวใจให้มันกว้างขึ้น แล้วเราก็มองเห็นว่าทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงรักชาย ชายรักชาย ชายหญิง หญิงชาย มันได้หมด ทุกคนมีความรักที่ดีให้กัน ผมว่าถ้าเรามีความรักดี ๆ ให้กันแล้วเราไม่ทำร้ายกันก็โอเคสุดแล้ว ผมว่าง่าย ๆ สั้น ๆ ถ้ารักกันแบบปรารถนาดีให้กัน ผมว่าแบบนี้จะอะไรก็แล้วแต่ เราไม่ซีเรียสก็เปิดรับหมด เราอาจจะชอบก็ได้นะ ถ้าเราปิดตัวเองเราก็ไม่รู้ว่าเราชอบอะไรกันแน่ แต่บางทีเราอาจจะไปเปิดใจเพื่อหาประสบการณ์แบบนี้ว่าเราชอบไหม? แบบนี้ก็รู้สึกฮีลใจเราได้นะ ก็ประมาณนั้น”

เห็นว่าเสน่ห์แรงถึงขั้นไปดึงดูดนักการเมืองคนใหญ่คนโตมาขอรับเลี้ยง?

“อันนี้ก็เป็นเรื่องขำ ๆ แล้วกันครับ ไม่ได้ซีเรียส คือทุกอย่างมันก็เป็นไปตามเท่าที่เห็น คือส่วนใหญ่เป็นเรื่องของงานมากกว่า ส่วนใหญ่เวลาไปทำงาน มันก็จะเป็นเรื่องของการทำงาน คือไม่ได้มีเรื่องอื่นเลย แล้วเราก็ไม่ได้ไปต่อใด ๆ คือสุดท้ายสำหรับผม อะไรที่มันคือความจริง วันนึงทุกคนก็จะเห็นความจริงเองว่าอ๋อ มันไม่ใช่ มันเป็นแบบนี้นะ มันแค่เป็นสิ่งที่ผ่านมา เป็นเรื่องเล่าขำ ๆ เราก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ลักษณะนี้ก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ เลย คือด้วยความที่เรามาทาง… (แซ่บ?) โชว์บอดี้ คือเราถ่ายแบบค่อนข้างเยอะ คือผมโอเค แล้วก็แฮปปี้ พี่ ๆLGBTQ+ ให้ความรักแล้วก็ความเมตตา ผมก็รู้สึกดีและเข้าใจทุกอย่าง ไม่ได้มีปัญหาอะไร ใครจะรักเราหรือใครจะไม่ชอบเรา เราก็ไม่เป็นไร วางเฉยดีกว่า เพราะเราอยู่วงการมานานแล้ว เราก็รู้ว่าไม่มีใครหรอกที่จะทำให้ทุกคนรักเราได้หมด แต่จะถามจิตใจเรามากกว่าว่าเราจะต้องไปอะไรกับเขาไหม ไม่ชอบเราก็ไม่เป็นไร แต่วันนึงไม่แน่หรอก บางผลงานของเราเขาอาจจะชอบเราก็ได้ มันก็มี ก็เลยไม่ได้ซีเรียสอะไรกับการที่ใครจะยังไง ก็คือตั้งใจทำผลงานต่อไปให้ดีที่สุด”

แล้วคนที่เข้ามาขอเลี้ยง เขาเสนอราคาให้เราเท่าไหร่?

“ผู้จัดการบอกว่าหลักล้านเลยนะแก ก็เลยบอก อ๋อ เหรอ ก็ไม่เอาอยู่ดีครับ ไม่ได้ทำทางนี้ เราก็ภูมิใจในสิ่งที่เราทำ ภูมิใจกับผลงาน ภูมิใจกับหยาดเหงื่อแรงกายที่เราทำเอง ภูมิใจกับเงินที่หามา มันจะเอาไปใช้อะไรมันก็เงินเราไม่ใช่เงินเขา แต่กลายเป็นว่าถ้าเราเอาเงินคนอื่นมาใช้ เป็นบุญคุณเลยนะ เราต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ใช่ เราเป็นคนสไตล์แบบไม่ชอบคำสั่ง ไม่ชอบความกดดัน เงินเรามีความสุขในแบบของเรา และเราไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ คนที่ให้ไม่มีใครจะไม่อยากได้อะไรคืน มันไม่มีของฟรีบนโลก คนที่ให้เราอ่ะเขาต้องการ 1234 อยู่แล้ว ถ้าเราอยากจะเอา เราเข้าไปอยู่ตรงนั้น เราก็ยอมแบบนั้น แต่ถ้าเราไม่ชอบ แล้วเรารู้ว่ามันจะต้องเกิดอะไร เราก็หนีออกมาดีกว่า เอาตัวเองออกมาจากตรงนั้นดีกว่า (ก็ไม่ใช่แค่รายเดียว?) หลายราย ถ้ารับก็อาจจะไปอยู่ดูไบ แล้วเป็นเศรษฐีดูไบ ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว แต่ที่ทำงานทุกวันนี้ เหนื่อยก็มีความสุข คือได้เห็นคนดู คนชม ผมชอบดูคอมเมนต์ดี ๆ ชมว่าซีรีส์เรื่องนี้เข้มข้นจังเลย สนุกจังเลย เดือดจัง เป็นความสามารถมากกว่า แล้วเราก็จะเอาไปพัฒนาตัวเองอีก เพราะเหมือนว่าเรายังรู้สึกว่าไม่เก่ง ทั้งที่คนบอกว่ามันดีมันโอเค แต่ในใจเราคิดว่ามันยังได้อีก”

แล้วกฎเหล็กที่จะไม่รับงานเลย?

“ก็คือจะเป็นเรื่องของงานเอ็นฯ งานกินข้าว ผมจะไม่รับเลย ผมขอรับเป็นงานในวงการ ด้านการแสดง อิเวนต์ ไปโชว์ตัว หรือไปถ่ายอะไรก็ตาม ไปถ่ายสกูป ไปถ่าย VLOG เป็นงานพวกกินข้าวจะไม่รับเลย คือไม่หิวครับ เดี๋ยวซื้อกินเองได้ครับ กลัวว่าจะต้องจุกแน่เลย กลัวกินอิ่มมากเกินไป กินเองดีกว่า กินพอดี ๆ ในแบบพอเพียง”