อุตรดิตถ์ – กระเทียมสายพันธุ์น้ำปาดสร้างกระแสฮือฮาอีกครั้ง โดยเฉพาะ “หำกระเทียม” และ “กระเทียมโทน” ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งสมุนไพรไทย ด้วยกลิ่นฉุนหอม รสชาติเผ็ดจัด พร้อมสรรพคุณที่เชื่อกันว่าช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง เพิ่มพละกำลัง ไม่ฝ่อ แถมยังสร้างรายได้มหาศาลแก่เกษตรกร
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 นายภูวภัทร ภู่เพียงใจ ปลัดอำเภอน้ำปาด พร้อมด้วยนางสาววัชรา ขันธนิยม เกษตรอำเภอน้ำปาด และคณะนักวิชาการเกษตร ลงพื้นที่สำรวจแปลงปลูกกระเทียมสายพันธุ์น้ำปาดในอำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ กระเทียมสายพันธุ์นี้ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของพื้นที่ โดยปีนี้มีการปลูกบนพื้นที่รวม 120 ไร่ ให้ผลผลิตกว่า 120 ตัน ทำรายได้สูงถึง 4.2 ล้านบาทต่อฤดูกาล
ขณะที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่แปลงกระเทียมของเกษตรกรในพื้นที่ พบว่าเจ้าของสวนให้ความสำคัญกับการคัดแยกกระเทียมอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะการค้นหา “กระเทียมโทน” และ “หำกระเทียม” ซึ่งถือว่าเป็นของหายาก และมีมูลค่าสูง
นางมาลัย อินคำน้อย เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมเผยว่า ปีนี้เธอปลูกกระเทียม 7 ไร่ และหลังจากเก็บเกี่ยวได้เพียง 2 งาน ก็พบกระเทียมโทนเพียง 10 หัว ซึ่งถือว่าน้อยมาก กระเทียมโทนมีลักษณะพิเศษคือ ไม่มีการแตกกลีบ มีเพียงหัวเดียว ขนาดเล็กกว่ากระเทียมทั่วไป 4-5 เท่า แต่เต็มไปด้วยสารอาหาร และสรรพคุณสูง
ด้านนายเลิศ นุชยา เกษตรกรอีกรายระบุว่า “หำกระเทียม” หรือที่ชาวบ้านน้ำปาดเรียกกันติดปากว่า “ปมกระเทียม” จะพบได้เฉพาะในต้นกระเทียมที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุด โดยเป็นเม็ดเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นกลางต้นกระเทียม 1 เม็ดของหำกระเทียมมีสารอาหารเทียบเท่ากระเทียม 1 หัว ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด
ทั้งกระเทียมโทน และหำกระเทียมหายากมาก โดยกระเทียม 1 ตันอาจพบหำกระเทียมไม่ถึง 1 กิโลกรัม ราคากระเทียมโทนสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท ส่วนหำกระเทียมมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1,000 บาท สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดและนำไปทำกระเทียมดอง เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย เนื่องจากเชื่อกันว่าช่วยเสริมพละกำลัง บำรุงร่างกาย และกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต
นางสาววัชรา ขันธนิยม เกษตรอำเภอน้ำปาดอธิบายว่า กระเทียมสายพันธุ์น้ำปาดมีลักษณะเฉพาะคือ หัวกระเทียมสีชมพูอมม่วง เปลือกบาง กลิ่นฉุนหอม และรสเผ็ดจัด มีปริมาณสารอินทรีย์กำมะถันสูงถึง 1.543% ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกระเทียมที่ปลูกในประเทศไทย สรรพคุณของกระเทียมน้ำปาดช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ เสริมภูมิคุ้มกัน และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ
กระเทียมน้ำปาดได้รับมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) จากกรมวิชาการเกษตร และเป็นกระเทียมปลอดสารพิษ สามารถเก็บรักษาได้นานกว่า 6 เดือนโดยไม่ฝ่อ เป็นสมุนไพรทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ควรมีติดครัว
