สัตว์ในโลกนี้ล้วนมีความน่าอัศจรรย์ในแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาดอย่างโลมาหรือลิงชิมแปนซี หรือสัตว์ที่เคลื่อนที่ได้ไวอย่างเสือชีต้าและนกกระจอกเทศ แต่ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับสัตว์ที่มีความโปร่งใสเหมือนแก้ว ทั้งที่อยู่ในใต้น้ำ รวมถึงบนบกที่เราสามารถพบได้ในระบบนิเวศต่าง ๆ ทั่วโลก แต่คุณอาจจะไม่เคยเห็น หรือรู้จักมาก่อน จะมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย
1. ผีเสื้อเกรตาโอโต (Glasswing Butterfly)
หรือที่เรียกกันว่า ผีเสื้อปีกใส เป็นผีเสื้อที่สามารถพบได้บริเวณป่าฝนเขตชื้นในทวีปแอฟริกา ออสเตรเลียและอเมริกาใต้ พวกมันสามารถเติบโตเต็มที่ได้ถึง 5.5-6.1 เซนติเมตร สามารถบินได้ราว 19 กิโลเมตรต่อวัน ที่ความเร็วประมาณ 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จุดเด่นของพวกมันก็คือปีก เพราะบริเวณปีกจะโปร่งแสงจนมีลักษณะใสเหมือนแก้ว เกิดจากการที่บริเวณนั้นขาดเกล็ดสี ซึ่งคุณสมบัติที่ผิดปกตินี่เองที่ทำให้พวกมันสามารถพรางตัวได้แม้กำลังบินอยู่
2. ด้วงเต่า (Tortoise Beetle)
เป็นด้วงที่มีหลายสายพันธุ์ จุดเด่นของพวกมันจะอยู่ที่เปลือกนอกที่โปร่งใสที่เราแทบจะมองไม่เห็น แต่ก็สามารถเปลี่ยนสีได้ นั่นก็เพราะที่เปลี่ยนโปร่งใสของพวกมันนั้นจะมีของเหลวอยู่ด้วย พวกมันสามารถควบคุมปริมาณของเหลวโดยใช้วาล์วขนาดเล็กในการเพิ่มลดปริมาณของเหลวโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เป็นผลให้แสงที่สะท้อนในของเหลวสร้างภาพลวงตาทำให้ดูเหมือนว่าพวกมันเปลี่ยนสีได้ และโดยส่วนใหญ่แล้วตัวผู้จะเปลี่ยนสีในช่วงฤดูผสมพันธุ์ เปลือกนอกของพวกมันจะมีสีแดงสดเพื่อดึงดูดความสนใจของตัวเมีย และทำให้ปลอดภัยจากนักล่า เพราะสีแดงจะทำให้นักล่ามองว่าพวกมันเป็นสัตว์อันตรายหรือสัตว์มีพิษ
3. กบแก้ว (Glass Frogs)
หรือที่เรียกกันว่า กบโปร่งใส มีถิ่นที่อาศัยอยู่บริเวณอเมริกากลางแถบคอสตาริกา ปานามา และอเมริกาใต้หลายประเทศเช่น เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ พวกมันเป็นกบที่มีขนาดตัวเล็กมากแค่ 20-22 มิลลิเมตรเท่านั้น ลักษณะเด่นคือพวกมันเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีผิวโปร่งแสงโดยเฉพาะบริเวณท้อง ทำให้สามารถมองเห็นอวัยวะภายในร่างกายได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันมีกบแก้วอยู่ราว 5,000 ตัวทั่วโลก และถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในตอนนี้
4. กุ้งเงา (Glass Shrimp)
หรือที่เรียกกันว่า กุ้งใส เป็นสัตว์ที่พบได้ในแถบอเมริกาเหนือและยุโรปเนื่องจากพวกมันเป็นกุ้งที่ทนต่อสภาพอุณหภูมิที่สูงได้ กินพวกสาหร่าย อาหารปลาสำเร็จรูป และยังกินพวกซากสัตว์เป็นอาหาร ขนาดตัวเมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร มีอายุค่อนข้างสั้นเพียง 1-1.5 ปีเท่านั้น สีของพวกมันจะใสถึงขาว จนสามารถมองเห็นระบบทางเดินอาหารหรือมองทะลุได้เลย
5. ปลิงทะเลใส (Transparent Sea Cucumber)
ถูกค้นพบโดยนักวิจัยที่กำลังทำการสำรวจประชากรของสิ่งมีชีวิตในอ่าวเม็กซิโกที่ความลึกราว 2,750 เมตร พวกเขาได้พบกับปลิงทะเลที่มีความโปร่งใสมากชนิดนี้ขณะที่พวกมันกำลังเคลื่อนที่ด้วยหนวดของมันอย่างช้า ๆ พวกมันจะกินเศษซากตะกอนเป็นอาหาร และด้วยปากรวมถึงผิวหนังที่ใสจึงทำให้เราสามารถมองเห็นไปถึงทางเดินอาหารของพวกมันได้เลย
6. ปลาน้ำแข็งจระเข้ (Crocodile Icefish)
เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำเย็นบริเวณแอนตาร์กติกา และทางตอนใต้ของอเมริกาใต้ จากการค้นพบพบว่าตอนนี้มีอยู่ 15 สายพันธุ์ สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปลาชนิดนี้ก็คือ มันเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังเพียงชนิดเดียวในโลกที่ไม่มีฮีโมโกลบิน ซึ่งก็คือสารที่ทำให้กล้ามเนื้อมีสีแดง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดของมันไม่เป็นสีแดงเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่มีกระดูกสันหลังชนิดอื่น อีกทั้งกล้ามเนื้อของพวกมันทุกส่วนยกเว้นกล้ามเนื้อหัวใจก็ไม่มีฮีโมโกลบินซึ่งเป็นเหตุให้พวกมันมีร่างกายที่ใสอย่างที่เห็น
7. ซาล์ป (Salps)
หรือที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า Jelly Balls พวกมันเป็นสัตว์ทะเลที่มีรูปร่างเป็นทรงกระบอก ลำตัวใสจนสามารถมองทะลุได้ มีความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร แต่มักพบพวกมันอยู่รวมกันเป็นแพยาวใกล้กับผิวน้ำ สิ่งที่น่าสนใจในตัวพวกมันคือเวลาที่มันกินอาหาร ซึ่งก็คือสาหร่ายทะเล เมื่อมันกินอาหารเข้าไปมันจะเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในสาหร่ายให้กลายเป็นของแข็ง แล้วปล่อยมูลตกสู่ก้นมหาสมุทร ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทะเลได้ ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่พวกมันตายลงก็จะดึงก๊าซคาร์บอนลงไปก้นทะเลพร้อมกับตัวของมันด้วย พวกมันเป็นสัตว์ที่สามารถพบได้ในท้องทะเลทั่วโลกที่มีอุณหภูมิต่ำ เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษภัยจึงมีลำตัวที่โปร่งแสงเพื่อหลีกเลี่ยงนักล่า
8. ปลาแบร์เรลอาย (Barreleye Fish)
หรือที่เรียกกันว่า ปลาหัวใส เป็นปลาขนาดเล็กที่มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ลักษณะพิเศษสุดโดดเด่นของมันคือหัวที่โปร่งใสจนสามารถมองเห็นอวัยวะภายในได้ มันถือเป็นปลาที่มีวิธีการล่า และซ่อนตัวจากนักล่าได้อย่างน่าทึ่งเช่น จุดสองจุดที่อยู่บริเวณด้านหน้าคือจมูก ส่วนตาของมันอยู่ในหัว มีลักษณะกลมโตสีเขียว สามารถหมุนได้รอบทิศทาง ช่วยให้สามารถมองหาเหยื่อที่อยู่เหนือศีรษะได้ นอกจากนั้นดวงตาของมันยังทำหน้าที่เหมือนแผงโซล่าเซลล์ที่สามารถกักเก็บแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านลงมา โดยจะเรืองแสงขึ้นเมื่อมันต้องการมองหาเหยื่อเช่น กุ้งขนาดเล็ก นอกจากนี้มันยังมีวิธีป้องกันตัวจากนักล่าแบบที่ไม่เหมือนใครคือ บริเวณท้องจะมีเกล็ดสีเงินสะท้อนแสง ซึ่งจะทำหน้าที่เบี่ยงเบนแสงที่นักล่าตัวอื่นส่องมาหามัน ทำให้นักล่าที่โจมตีจากด้านล่างหาพวกมันไม่เจอ
