ในวันที่ทำงานมาหนัก ๆ รู้สึกเหนื่อยล้า เครียด แต่ละคนก็มีวิธีการจำกัดความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านี้แตกต่างกันออกไป บางคนเลือกพักกายใจของตัวเองอยู่บนเตียง บางคนเลือกที่จะออกไปเดินช็อปปิ้งกับเพื่อน ๆ และหาของกินอร่อย ๆ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงการเยียวยาจิตใจด้วยเพลงและดนตรี เพราะอย่างที่เขาว่ากันว่า “ดนตรีบรรเลง พาจิตใจครื้นเครง”
จากวิดีโอนี้แสดงให้เห็นถึงเสียงดนตรีที่สนุกสนาน พร้อมกับท่วงท่าการเต้นที่พริ้วไหวของคู่หนุ่มสาว ซึ่งฟังดูแล้วก็คล้ายกับแนวเพลงและการเต้นของชาวละติน ถ้าใครได้เห็นหรือได้ยินก็ต้องขยับตามอย่างแน่นอน ซึ่งมันเรียกว่า “Bachata”
Bachata คือ สไตล์ดนตรีและการเต้นที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสาธารณรัฐโดมินิกันในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 ที่ถือเป็นการสร้างความครื้นเครง และบันเทิงใจในหมู่คนทั่วไป และอันที่จริง Bachata เป็นการผสมผสานกันของแนวดนตรีของชาวแอฟริกันกับของชาวสเปน
ปัจจุบันนี้ Bachata ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากเป็นการเต้นที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยทักษะการเต้นขั้นสูงอะไร และสองสิ่งที่คุณต้องมีก็คือแค่เสียงดนตรีกับคู่เต้นเท่านั้นเอง นอกจากนี้มันยังถือเป็นเกมได้ด้วย เกมที่สื่อถึงความคล่องตัว และความเป็นอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกาย เป็นเกมระหว่างคู่เต้นชายและหญิง กฎเกณฑ์ก็แสนจะธรรมดา เพียงแค่คุณเต้นไปเรื่อย ๆ เต้นให้เหมือนกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ
ทีนี้มาลองดูที่มาที่แท้จริงของดนตรีและการเต้นสุดเร้าใจนี้กัน
Bachata กำเนิดขึ้นจากกลุ่มชาวบ้านในเขตชนบทของประเทศสาธารณรัฐโดมินิกันในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 โดยพื้นเพเดิมนั้นมีที่มาจากกลุ่มทาสชาวแอฟริกันที่ถูกพาตัวมาอยู่ในโดมินิกัน
คำว่า “Bachata” ถูกเรียกครั้งแรกในช่วงปี 1930 ซึ่งใช้อธิบายถึงสไตล์ดนตรีและการเต้นที่เป็นที่นิยม
เนื้อเพลงในแนว Bachata ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของความรัก ปัญหาหัวใจ รวมทั้งเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตคนเราด้วย ส่วนเรื่องของท่าทางการเต้น จากที่เห็นในวิดีโอ หลายคนก็คงจะตอบได้เลยว่ามันต้องเป็นการกอดกันอย่างโอบแน่นของคู่เต้นแน่นอน เพราะภายในดนตรียาวแค่สามนาทีกว่า เราก็เห็นว่าทั้งชายและหญิงกอดรัดกันไปแล้วไม่รู้กว่าหลายสิบครั้ง
ในช่วงต้นหรือราว ๆ ในปี 1950-1960 Bachata ถูกมองว่าเป็นการสร้างความบันเทิงใจของพวกชนชั้นล่าง หรือเป็นดนตรีที่มีความลามก ผู้คนจึงยังไม่ได้ให้ความนิยมมากนักในช่วงนั้น
แต่ในช่วงปี 1970 Bachata ก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มชาวโดมินิกันและกลุ่มชาวละตินอเมริกัน และในปี 1980-1990 ผู้คนในแถบนี้ก็ยิ่งชื่นชอบแนวเพลงแบบนี้มากขึ้นจนเกิดเป็นกระแสที่ดังเป็นพลุแตกไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกันด้วย และที่แนวเพลงนี้ได้รับความชื่นชมขนาดนี้ สาเหตุอย่างหนึ่งก็มาจากราชาเพลงป็อปที่เป็นชาวละตินอเมริกาอย่าง Ricky Martin และ Marc Anthony ที่นำแนวดนตรีแบบ Bachata มาใช้ในเพลงของพวกเขา
